FT Island อันดับหนึ่งในชาร์ตโอริกอน และ มินิอัลบั้มชุดใหม่ Return!
FT Island กลับมาอีกครั้งกับมินิอัลบั้มที่มีชื่อว่า Return ดูเหมือนว่า สิบเดือนที่หายไปนั้น เป็นการฟื้นคืนพลังความสามารถให้แก่พวกเขา สมาชิกของวงนั้นดูจริงจังขึ้นมาก รวมถึงความคิดของพวกเขาเองระหว่างการให้สัมภาษณ์ เพื่อบอกเล่าถึงความใฝ่ฝันของตนเองอีกด้วย
อีฮงกี หนุ่มที่ได้ทิ้งคาแรคเตอร์ตัวป่วนเอาไว้ข้างหลัง บอกด้วยรอยยิ้มว่า “ผมพยายามที่จะเป็นนักร้องที่ขยันขึ้นครับ เป็นคนที่ปลดปล่อยพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบบนเวทีและเป็นคนที่มีความรอบคอบ กว่านี้” FT Island ได้รับแรงผลักดันจากการทำกิจกรรมโปรโมตเพลงในวงการดนตรีญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อ สามปีมาแล้ว และยิ่งเมื่อได้เห็นความสำเร็จอย่างแบบติดจรวด ของ CN BLUE ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดเดียวกัน ทำให้พวกเขายิ่งต้องผลักดันตัวเองมากขึ้น
การสัมภาษณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากอัลบั้มเต็มของ FT Island ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ของ Oricon FT Island กลายเป็นนักร้องต่างชาติวงแรกที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งของโอริกอนชาร์ตได้ ตั้งแต่ปี 1970 เรียกได้ว่าตั้งแต่ได้มีการจัดชาร์ตโอริกอนมาเลยทีเดียว ดังนั้น สมาชิกของวงจึงรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้ถูกบันทึกความสำเร็จของพวกเขาเอาไว้ใน ประวัติศาสตร์ของชาร์ตโอริกอน พวกเขาบอกว่า “ญี่ปุ่นนั้นมีนักร้องที่มีชื่อเสียงเยอะแยะเลยครับ และพวกเราก็ยิ่งดีใจขึ้นไปอีกเพราะว่าเราเองก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุด และเราก็ได้รับผลตอบรับที่ดีแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีความภูมิใจมากๆ ที่อัลบั้มนี้ มีเพลงของสมาชิกเราทุกคนรวมอยู่ในอัลบั้ม”
ความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของ FT Island ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความโชคดีเพียงชั่วข้ามคืน พวกเขาเดบิวท์ในวงการเพลงอินดี้ของญี่ปุ่นเมื่อปี 2008 และพัฒนาความสามารถของตัวเองไปด้วยในขณะออกอัลบั้ม เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาได้ทำสัญญากับค่ายเพลงใหญ่ที่ญี่ปุ่น Warner Music Japan และก็สามารถใช้เวลาเพียงปีเดียวตั้งแต่การเมเจอร์เดบิวท์ในวงการเพลงญี่ปุ่น ทำให้เป็นที่ยอมรับของนักฟังเพลงที่นั่นได้
เชวมินฮวานกล่าวว่า “เราเดบิวท์ในวงการอินดี้ญี่ปุ่นก่อนครับ เพื่อที่จะศึกษาเรื่องดนตรีและพัฒนาตัวเอง สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการอัดอัลบั้มร่วมกันเป็นครั้งแรก และเราก็สามารถเล่นเครื่องดนตรีของเราได้เอง ตอนที่เรามีงานชิ้นที่สองที่เกาหลีครับ”
ส่วนอีฮงกีก็บอกว่า “แนวเพลงของเราโตขึ้นเรื่อยๆ เหมือนตอนที่เราออกงานเพลงใหม่ๆ ซึ่งจะเน้นแนวJ Pop เป็นพิเศษ แล้วก็จะมีหลายภาษา ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ แทนที่จะเอาเพลงฮิตที่เกาหลีมาทำใหม่ เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากการดูวงดนตรีของญี่ปุ่น ซึ่งเราได้มีโอกาสเจอกันตอนร่วมงานคอนเสิร์ต ร็อคเฟสติวัล ‘ซัมเมอร์โซนิค’ เมื่อปีที่แล้ว ลองดูพวกเราแล้วลองเปรียบเทียบดูว่าก่อนและหลังช่วงที่เรามาญี่ปุ่น คุณอาจจะเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป”
ในระหว่างนั้น ดาวรุ่งน้องใหม่จากค่ายเดียวกัน CN Blue ก็มีกระแสตอบรับแรงไม่แพ้กัน อีฮงกีบอกว่า “เรารู้สึกอิจฉา CN Blue เพราะว่าพวกเค้าน่ะมีภาพลักษณ์ที่วงเราไม่มี พวกเขาแสดงเพลงเบาๆ กับภาพลักษณ์ที่ดูสง่างามและทันสมัย เราก็เลยอยากจะแข่งกะเค้าบ้าง พวกเขาไล่ตามเราในเรื่องของดนตรี เราเองก็จะต้องพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น จะปล่อยให้ตามเราทันไม่ได้ครับ เราเป็นรุ่นพี่ของ CN Blue ดังนั้น เราก็เลยต้องทำให้ดีที่สุดก่อนพวกเค้า” (หัวเราะ)
ในทางด้านจิตใจนั้นพวกเขาเติบโตขึ้นมาก อัลบั้มนี้จึงฟังดูสดใสกว่าที่เคยเพลงไตเติ้ล Hello Hello นั้นเป็นเพลงร็อคที่มีจังหวะเร็ว แล้วยังฟังดูเร้าใจมากขึ้นด้วยเมื่อเพิ่มเสียงดนตรีอะคูสติกและแร็พจากอี แจจิน และซง ซึงฮยอนในช่วงต้นของเพลง ส่วนเพลง Sunshine Girls นั้นมีดนตรีที่หนักแน่น แต่กลับเปลี่ยนบรรยากาศด้วยเนื้อเพลงที่น่ารัก นอกจากนี้ เพลง I Confess ซึ่งแต่งโดยแชว จงฮุนนั้น ถูกร้องโดยเมมเบอร์ทั้ง 5 คนเป็นครั้งแรก อี แจจิน กล่าวว่า “เรารู้สึกกดดันมากที่กลับมายังอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่าง รวดเร็ว หลังจากหยุดพักไปกว่า 10 เดือน แต่พวกเราก็อยากจะใกล้ชิดทุกคนให้มากขึ้น จึงใส่จังหวะที่เป็นที่นิยมลงไป เราเพียงแค่อยากให้แฟนๆ สนุกกับเพลงของเราได้”
FT Island เดบิวท์ในปี 2001 และพวกเขามีเพลงทั้งหมดกว่า 150 เพลงรวมอัลบั้มนี้ ทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น แต่เมมเบอร์ทุกคนยังคงเห็นตรงกันและกล่าวว่า “เรายังคงต้องเรียนรู้ต่อไป” พวกเขายังบอกอีกว่ารายการ I Am Singer ของช่อง MBC ได้กลายเป็นรายการโปรดของพวกเขา อี ฮงกีกล่าวว่า “ผมรู้สึกเครียดตามมากๆ เลยเวลาดูรายการ 'I Am Singer' เพราะทำให้ผมรู้สึกได้ว่ารุ่นพี่เครียดกันขนาดไหนในรายการนี้ ความกังวลที่ปรากฏบนรายการนั้นเป็นเรืองจริง แค่คิดว่าตัวเองต้องเป็นผู้เข้าแข่งขันผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว ลองคิดดูว่า ‘ถ้าผมต้องร้องเพลงบนเวทีบ้างล่ะจะเป็นไง?’ ผมจะได้ไปออกรายการ 'Immortal Materpiece 2' ทางช่อง KBS 2TV และต้องแข่งขันกับเมมเบอร์ของไอด้อลกรุ๊ปคนอื่นๆ ด้วย และผมก็ตื่นเต้นกับการแข่งขันนี้จริงๆ”
หลังจากทำกิจกรรมที่เกาหลีอยู่กว่าเดือน พวกเขาก็ต้องทำตามเป้าหมายต่อไปของตัวเอง ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วญี่ปุ่นปีนี้ พวกเขาจะได้แสดงบน “เวทีแห่งความฝัน” บูโดกัน เมมเบอร์ของวงกล่าวถึงความหวังของตัวเอง “เราจะปิดฉากการทัวร์คอนเสิร์ตของเราที่บูโดกันเป็นที่สุดท้าย ในวันที่ 29 กรกฎาคม โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีผู้ชมกว่า 10,000 คน แต่เพราะสถานที่นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวงดนตรี เพราะฉะนั้น มึนจึงเหมือนกับว่าเราทำเป้าหมายแรกสำเร็จแล้ว และเราก็อยากแสดงที่โตเกียวโดมในภายหลังด้วยเช่นกัน”
เชว มินฮวาน เอ่ยว่า “เราไม่ได้แตกต่างจากไอดอลกรุ๊ปวงอื่นเพียงเพราะเราเล่นดนตรีเท่านั้น แต่เพราะเรายังคงเรียนรู้และพยายามอย่างดีที่สุดในการพัฒนาตัวเองโดยการ ฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อจะได้โชว์การแสดงที่ดีที่สุดต่อหน้าแฟนๆ ของเรา พวกเราอยากจะเป็นที่ยอมรับของผู้คน โดยเป็นวงที่ทุกคนจดจำได้ครับ”
Credit : KBS ,crahyuns. @ Silh0uette
Translation : babysister and HASU @ FT Island Thailand
Please take out with full credit !!
